22.04.2561 ลอยก่อ, รัฐคะยา, เมียนมาร์ (ตอนที่ 3 สุดท้ายจ้ะ) Pan Pet, Valley of Kayan CBT devlopment เขียนโดย Tour Merng Tai.
ลอยก่อ, รัฐคะยา, เมียนมาร์ (ตอนที่ 3 สุดท้ายจ้ะ) Pan Pet, Valley of Kayan CBT devlopment
เตรียมเสบียงโดยเจ้าบ้าน และน้อง Intern |
และก็มาถึงตอนสุดท้ายกับงานพัฒนา CBT ที่ปานเปท แต่ยังไม่เสร็จสิ้นขบวนการทั้งหมดนะครับ สามตอนนี้เป็นแค่ช่วงที่ผมเข้าไปร่วมด้วยช่วยกันกับพี่ใหญ่ หรือ ป้าหน่อย...สำหรับวันนี้เป็นภารกิจสำรวจ และจัดทำเส้นทางเดินป่าตามรอยบรรพบุรุษของชาวกะยัน จริงๆชื่อนี้ตั้งโดยหนุ่มจากแดนผีดิบ ลุง Pascal ของเรานี่เอง แกเลยให้ชื่อว่า Ancestor trail เช้านี้ก็เริ่มด้วยภารกิจการเตรียมความพร้อมต่างๆ เสบียงคลัง และที่ขาดไม่ได้น้ำดื่มฮาาา...เมื่อวานพลาดไปทีแล้ว...
เช้านี้ฝ่ายเสบียงบอกว่าจะห่อข้าวให้สวยงามกว่าเดิม...ในขณะที่ผมก็ลงไปพยายามจะช่วยห่อ แต่ด้วยความสามารถไม่ถึงเลยปล่อยให้เป็นหน้าที่ของน้องๆนักศึกษาจัดการต่อ เลยปลีกตัวไปเตรียมอย่างอื่นแทน...แม่บ้านก็ขยันหิ้วเจ้าตัวน้อยมาช่วยต้มไข่ และห่อข้าว
ตะกร้าเสบียงพร้อม |
คุณแม่หามคุณลูกมาช่วยเตรียม |
เช็คความพร้อมกันหน่อย |
คนพร้อมสเบียงพร้อม...ผู้นำเที่ยวพร้อม ก่อนออกเดินเลยมาซักซ้อมเส้นทาง กันนิดหน่อย ข้อควรระวัง ระดับความยากง่ายของเส้นทางที่จะไปวันนี้... วันนี้สมาชิกประกอบไปด้วยทีมงานจาก 9 Generation Force ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจากลอยก่อ ที่สนใจเข้าร่วมพัฒนางาน CBT ร่วมกัน น้องๆนักศึกษาฝึกงาน และ Winnie จาก ITC ส่วนลุง Pascal วันนี้หนีไปทำหน้าที่กับทีมสเบียงฮาาา...
หม่องตา หนุ่มผู้นำชุมชนและสวมบทบาทผู้นำเที่ยววันนี้ |
พร้อมแล้วจ้า |
เริ่มออกเดินช่วงแรกชิลๆ |
ดูจากสภาพพื้นที่แล้วคิดว่าไม่น่ามีอะไรหนักหนา...ยกเว้นเขาฝั่งตรงข้าม! ที่ดูแล้วเป็นดอยผาตั้งพรวดขึ้นมาจากผืนดิน แต่ไม่เป็นไรสู้ๆ ดูแล้วไม่น่าระคายสองเท้าเท่าไหร่... จากบ้านเริ่มออกเดินตามทางลาดไปจนถึงผืนนาขั้นบันไดที่สวยงาม ผ่านจุดที่ตั้งชุมชนเก่า... สังเกตจากก้อนหินที่มีลักษณะอย่างไร พอดีผมไม่ทันฟังเหมือนกัน แล้วก็ละเมียดเรื่อยมาจนถึง โพรงใต้ดินโพรงหนึ่งที่ ไกด์หนุ่มของเราบอกว่าแต่ก่อนเวลาสัตว์เลี้ยงล้อมตายก็จะนำซากมาโยนทิ้งลงไปในโพรงนี้ ท่าทางแม่ฮ่องสอนจะเรียกกันว่า "ฮูหลาว" ลักษณะเป็นหลุมยุบ และก็อาจสันนิษฐานได้ว่า นี่อาจจะเป็นอีกลักษณะภูมิประเทศที่ไม่อาจสามารถกักเก็บน้ำได้เนื่องจากมีโพรงน้ำใต้ดินเยอะก็เป็นได้
จากนั้นก็ผ่านดงต้นอะไรสักอย่างมิทราบได้ น่าจะเป็นพืชตระกูลตะบองเพชร หรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่มีขึ้นอยู่เต็มไปหมดบริเวณช่วงนี้ของเส้นทางเดินป่า สวย เท่ห์ไปอีกแบบ เลยแวะเก็บภาพเปรียบเทียบขนาดกันหน่อย แถมพักไปในตัว
ผ่านที่ตั้งชุมชนเก่า |
ต้นนี้ยังหาชื่อไม่ได้จ้ะ หาได้แล้วจะมาบอก |
แวะพักเหนื่อยกับเจ้าต้นนี้แป๊บนึง |
พ่อหนุ่มคาวบอยจาก 9 Generation Force |
เท่ห์มากสำหรับชุดเดินป่าฮาาา |
พี่หน่อยขมักขเม้นกับการเก็บเรื่อง กับไกด์วินนาย |
จากนั้นก็ไปกันต่อ ช่วงนี้ข้ามจุดต่ำสุดของหุบมาแล้ว ผ่านนาขั้นบันได และก็เริ่มเส้นทางที่ค่อยๆไต่ความสูงขึ้นไปตามไหล่เขา ผ่านจุดฮูหลาวอีกจุดที่มีเรื่องเล่าน่าสะพรึงกลัวบ้างฮาาา ช่วงนี้เป็นหน้าที่ของหนุ่มวินนาย หรือเราเรียกแบบไทยว่า คุณพี่วินัย ฮาาา (อันนี้พี่หน่อยตั้งให้เรียบร้อยครับ) ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมต่อทางด้านภาษาให้ แทนลุงพาสคาล มีสลับกับวินนี่บ้างเป็นบางช่วง ไต่ดอยกันมาเรื่อยๆ พักบ้างไรบ้างชิลๆตามประสา
ผืนนาสวยๆระหว่างทาง |
แวะอีกแล้วจ้าฮาาา |
ไม้ดอกสวยๆระหว่างทาง |
อันนี้เช่นกัน |
กล้วยไม้ดินหรือเปล่าเอ่ย |
บางช่วงเป็นป่าสนสวยงาม |
รวมหมู่แก้เหนื่อย |
ช่อนี้ก็งาม |
สรุปยังหาชื่อไม่ได้สักดอกฮาาา |
อีกหนึ่งหนุ่มผู้ช่วยอารมณ์ดี |
รวมภาพแอ๊คชั่นของสมาชิก |
จนมาถึงช่วงจุดสูงสุดแรก เป็นผาผึ้ง ซึ่งอดีตชุมชนมักจะมาหาผึ้ง แถวๆถ้ำนี้ และก่อนถึงถ้ำก็เป็นจุดบ่อกักเก็บน้ำ ซึ่งปัจจุบันอาจจะยังไม่ได้นำไปใช้มากนัก เนื่องจากบางครั้งก็ก่อปัญหาขึ้นระหว่างชุมชนกันเองเรื่องการแย่งน้ำกัน เลยตัดสินใจปิดห้ามผู้ใดใช้ฮาาาเด็ดขาดแท้... จุดนี้ก็ถือเป็นจุดพักหลักอีกจุดนึงได้เนื่องจากไต่ดอยกันขึ้นมาเรื่อยๆ แถมยังเป็นดงไม้ไผ่ด้วยเลยได้บรรยากาศหน่อย แต่อนาคตอาจจะพัฒนาให้มีที่นั่งบ้าง เพื่อความสะดวกสบายอีกนิดนึงครับ
อันนี้แบบหมดแรงแน่นอนจ้ะ |
ไปกันต่อผ่านโซนป่าไผ่ |
บางช่วงก็เป็นนาขั้นบันไดบนยอดเขา |
บรรยากาศแบบชิลๆ |
จากนั้นก็ไปกันต่อ ผ่านดงป่าไผ่ที่ไม่รกมากนัก เผอิญเห็นต้นไผ่ ก็เลยนึกถึงรถด่วนขึ้นมา ไกด์เราเลยจัดให้ หายไปแว๊บนึงกลับมาพร้อมเจ้ากระบอกไม้ไผ่ที่สันนิษฐานว่าจะมีเจ้ารถด่วนอยู่ ชั๊วะๆ เฉาะๆ ขาวจั๊วะน่าเจี๊ยะดิ้นหยึบๆอยู่ในกระบอก หวานปากอีกแล้วครับท่าน (อันนี้เก็บไว้มื้อเย็นฮาาา) เรียบร้อยจากการล่ารถด่วน ก็สาวเท้ากันต่อไป ไต่ระดับไปเรื่อยๆ แวะพักชมวิวนาขั้นบันไดบ้าง และมาแวะนานสุดที่จุดตัดก่อนไปยังที่ตั้งหมู่บ้านของบรรพบุรุษดั้งเดิม...จุดนี้พี่หน่อยท่าจะเหนื่อยฮาาา เลยบอกไม่ต้องรีบหรอก นั่งชมวิวกันก่อนฮาาา เนื่องจากเวลายังมีนะ อีกแป๊บเดียวก็ถึงที่กินข้าวเที่ยงแล้ว...
ถ้าน้ำเยอะกว่านี้คงไม่ต้องบรรยายความงดงามครับ |
หมวกเท่ห์จริงๆสัญญาณก็ดี |
พี่หน่อยและน้อง Winnie |
รวมทีมแช๊ะๆๆ |
รถด่วนสดๆมาแล้ว |
วีถีชีวิตระหว่างทาง |
อีกฟากหนึ่งของปานเปท |
ช่วงไต่ขึ้นกิ่ว เป็นโซนป่าดิบเขา |
ถึงเขตหวงห้าม ห้ามเลยผ่านจ้า |
ณ จุดที่ตั้งชุมชนเก่า |
ตัดแพร้มกับมาอีกที ตอนนี้มาโผล่ที่ ที่ตั้งบ้านเก่าเรียบร้อย เดินเท้าตัดดอยขึ้นมาอีกหน่อยผ่านกิ่วที่ดูแล้วน่าจะเป็นป่าดิบเขาหน่อย แต่ไกด์หนุ่มเราบอกว่าเราผ่านจุดนี้ไปไม่ได้แล้วห้าม! อิๆเลยตัดซ้ายขึ้นไปที่บ้านเก่า... สภาพทั่วไปเป็นพื้นที่ไร่เก่ารกร้าง แต่พอมีร่องรอยการตั้งถิ่นฐานอยู่บ้าง จากครัวไฟ และเสาบ้านเดิมแถมพื้นที่ยังมีการจัดการเอาหินออกเป็นกองๆ เพื่อทำการเกษตร ซึ่งอดีตชาวกะยันจะอาศัยอยู่บนเขา และลงไปทำนาที่ด้านล่าง แต่ต่อมาเนื่องจากสภาพพื้นที่ไม่อำนวยเลยโยกย้ายลงไปอยู่ด้านล่าง...
ใกล้ถึงที่กินข้าวแล้ว :-) แต่!หลง ฮาาาาเอาหล่ะสิครับงานเข้าพ่อหนุ่มไกด์เรา ยืนขึ้นบนหินมองหาทิศทาง แต่ตอนที่ยืนหลงอยู่นี่ได้กลิ่นมาม่าลอยมาเตะจมูกแล้วคาดว่าคงไม่ไกล...สุดท้ายพ่อหนุ่มยกมือถือโทรดีกว่านะ ชัวร์ดีฮาาา... หลงบ้างไรบ้างเป็นเรื่องธรรมชาตินะครับสนุกดี สุดท้ายก็มาเจอพ่อหนุ่มจากแดนผีดิบเดินแหวกพงหญ้ามาสวบๆ เจอแล้วเป็นแน่แท้ แล้วก็ลุยหญ้าท่วมหัวไปอีกสักพักก็ถึงจุดหมายกลางวันจ้า...
เก็บแมงปอมาฝาก |
นั่งพักสบาย ณ จุดแวะทานอาหารกลางวัน |
อ้าถึงจนได้ วิวงามแท้ๆ หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง แวะหย่อนก้นลงบนหญ้านุ่มๆ ที่ลุงพาสคาลเหยียบให้แบนราบรอไว้เรียบร้อย ระหว่างรอเลยแอบไปส่องเชฟกะยันของเรากำลังหลามไก่อยู่ หอมหวน ชวนรับประทานยิ่งนัก แถมมีมาม่าร้อนๆ และปลากระป๋องสด (คือเปิดจากกระป๋องแล้วเทเลยฮาาาไม่ต้องปรุงจ้ะ) จริงๆคืนก่อนก็สาธิตทำน้ำพริกปลากระป๋องไปรอบแล้วสงสัยจะยากไปหน่อยเลยเล่นกันสดๆเลยดีกว่าครับฮาาา...
ขายดีอันดับหนึ่งไก่หลามกะยัน ตามด้วยมาม่า ไข่ต้ม และปลากระป๋องสด เมนูมาตรฐานโดยแท้ ถือว่าผ่านใช้ได้ รอรอบหน้าเตรียมพื้นที่อีกนิดก็แจ่มเบยครับ...
ฝ่ายเสบียงมาแล้วกำลังหลามไก่แบบกะยัน |
ร้อนๆจากกระบอกไม้ไผ่ |
พี่หน่อยทำหน้าที่เก็บภาพอาหารกลางวัน |
นี่แหละหลามไก่แบบ กะยัน |
ปลากระป๋อง อาหารยอดฮิต ยามเดินป่า |
ไปกันต่อตามรอยทางบรรพบุรุษ |
อิ่มอร่อยพักเรียบร้อยก็ไปกันต่อ ผ่านทุ่งนาขั้นบันได ที่ปีนี้อาจจะไม่ได้ทำนากันมากนัก เนื่องจากปริมาณน้ำฝนน้อย แต่ถ้าฝนดีนี่ผมว่าพวกชอบบรรยากาศนาขั้นบันไดนี่ บอกเลยว่าไม่ควรพลาดมาเยือน สวยงามมากๆจ้ะ
เดินลัดเลาะผ่านทุ่งนาขั้นบันได |
เดินสะดวกสบายครับ |
หันแว๊บไปเห็นพอดี ขอสักดอก |
จริงๆช่วงเดินช่วงนี้สวยมากหากนามีน้ำสมบูรณ์ |
ปีนี้สภาพอากาศไม่อำนวย |
มาถึงช่วงสุดท้ายของเส้นทางเดินป่า ลัดเลาะผ่านคันนา ปีนป่ายไต่ตามขอบนามาเรื่อยๆ และข้ามเนินไปอีกฝั่ง เพื่อไปชมบ่อน้ำธรรมชาติ ด้านหลังดอยที่ด้านบนเต็มไปด้วยป่าสน และผืนนา บางแปลงก็แห้งน้ำ ผิวดินเริ่มแตก แต่ก็ลุ้นให้ฝนมาจะได้ช่วยเติมน้ำให้กับต้นข้าวบ้าง...
บางนาก็โชคดีหน่อยที่มีตาน้ำอยู่ข้างๆ เลยพอจะมีน้ำหล่อเลี้ยงผืนนา จนเดินมาถึงบ่อน้ำ ก็เป็นเวลาพอดีที่ชาวบ้านบางคนก็มายืนตกปลาด้วยคันเบ็ดไม้ไผ่ที่ยาวมาก ยืนลากไปลากมาตามสไตล์การตกปลาของชาวกะยัน ว่างจะเชิญตา Bobby Fly Fishing มาลองหวดสักรอบครับฮาาา
หนุ่มจากแดนผีดิบ Pascal |
และก็มาถึงแหล่งเก็บน้ำธรรมชาติ |
หันกลับไปอีกทีโอแม่เจ้า งามแท้ |
และสุดท้าย ท้ายสุดก็สาวเท้ามาจนถึงลางกู่ และดอกี ที่เป็นสองชุมชนที่เส้นทางเดินป่าสิ้นสุด ก่อนเข้าตัวชุมชนหันไปมองภาพสุดท้ายงดงามยิ่งนัก...ผืนนาขั้นบันได ป่าก่อ และป่าสน วางแผนกับเทวดาว่าปีหน้าขอฝนเยอะๆหน่อยนะจะกลับเยือนใหม่ฮาาา (แต่เทวดาไม่ตอบจ้ะ)...
ผ่านเข้าตัวชุมชน ศิริรวมเส้นทางเดินวันนี้ประมาณ 6 กม. เดินสบายๆชิลๆ มีมุดโพรงหญ้าบ้าง แต่ดีที่ไม่มีหญ้าคอมมิวนิสต์ หาไม่แล้วน่องและขาคงจะเต็มไปด้วยริ้วรอยจ้ะ
ชาวบ้านเริ่มทยอยกลับจากไร่ จากสวน บ้างก็ทำหมูแดดเดียวตากไว้หน้าบ้าน คุณป้ากะยันบางคนก็กำลังเริ่มเก็บร้านลวง วิถีเรียบง่ายปราศจากความทันสมัย และเทคโนโลยีชั้นสูง (ยกเว้นสัญญาณมือถือ) ชีวิตดำเนินไปตามธรรมชาติอย่างแท้จริง มีน้ำน้อยใช้น้อย ปลูกข้าวตามฤดูกาล มากบ้างน้อยบ้างตามสภาพภูมิอากาศ ชีวิตดำเนินต่อไป... ผมก็คงต้องปรับสภาพไปตามระบบสังคมของปานเปท งดอาบน้ำด้วยคน! แต่วันนี้ขอเอาน้ำรูปหน่อยแล้วกันเนื่องจากสามวันผ่านไปฮาาา ลองดูครับ นี่แหละธรรมชาติ ปานเปท ดินแดนของชาวกะยัน
สิ้นสุดเส้นทางที่ ลางกู่ และดอกี |
อันนี้แดดเดียวแน่นอนจ้ะ |
แผนที่เส้นทางเดินป่า รวมประมาณ 6 กม. เบาะๆเบาๆจ้ะ |
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น